ข้อแตกต่างระหว่างนักธุรกิจเครือข่าย & พนักงานขายของ

                    สำหรับคนที่ลังเลหรืออาจจะยังมีความสงสัย มีความเข้าใจกันอยู่ว่า ระหว่างพนักงานขายของ มันมีความแตกต่างกันอย่างไร

                   เมื่อมีข้อสงสัยดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้คนหลายคนไม่ยอมเลือกที่จะมาเป็นนักธุรกิจเครือข่าย หรือ เมื่อได้รับการอบรมและได้ตัดสินใจสมัครเข้าร่วมเป็นนักธุรกิจเครือข่ายในบริษัทใดบริษัทหนึ่งไปแล้ว จะกลายสภาพกลายเป็นพนักงานขายของอย่างที่กลัวๆกันอยู่หรือไม่

                   ทางเราจึงอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะอธิบายข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้ เพื่อเปิดโอกาสในการสร้างความเข้าใจให้กับตัวท่าเอง

"ข้อแตกต่างระหว่าง นักธุรกิจเครือข่าย กับ พนักงานขายของ"

                  1.หลักๆเลยพนักงานขายของมักจะมี เจ้านายคอยดูแล คอยกดดันเราในฐานะลูกจ้าง เวลาเราอู้งาน คอยจับผิดเราเวลาเราทำอะไรก็ตามที่ไม่ถูกใจเจ้านาย เพราะอำนาจเต็มอยู่ที่เจ้านายเรา
                  ส่วนนักธุรกิจเครือข่าย หลังจากที่ตัวเราเองได้ร่วมลงทุนเสร็จแล้ว ก็จะมีที่ปรึกษา คอยดูแล และให้คำปรึกษา,แนะนำ,ให้ข้อคิด,เกี่ยวกับการลงทุนเพื่อให้คุ้มค่า โดยที่ทางที่ปรึกษา ไม่มีอำนาจในการสร้างแรงกดดันเราได้

                 2.อยากจะหยุดวันไหนก็ไม่สามารถหยุดได้ตามใจ ถ้าอยากจะหยุดต้องมีการลางาน และยิ่งถ้าเป็นงานประจำประเภทบริการแล้ว วันหยุด เสาร์อาทิตย์ ถือว่าเป็นวันที่จะไม่ค่อยมีใครให้หยุดกัน ถ้าหยุดมากๆ อาจจะโดนไล่ออกก็เป็นไปได้
                   นักธุรกิจเครือข่าย อยากจะทำวันไหนก็ทำ จะหยุดวันไหนก็หยุด ไม่ต้องบอกเจ้านาย เพราะธุรกิจนี้ ไม่มีลูกน้องและเจ้านาย จะหยุดเป็นเดือนก็ได้ แล้วกลับมาเริ่มทำใหม่ก็ได้

                  3.ในกรณีที่เราเป็น เซลแมน ถ้าเราไม่สามารถทำยอดตามที่เจ้านายเรา ตั้งเป้าเอาไว้ มีสิทธิ์อาจจะโดนพิจารณาจากเจ้านายหรือเจ้านายอาจจะให้ตัวเราพิจารณาตัวเอง
                    นักธุรกิจเครือข่าย ไม่มีเจ้านายตั้งเป้าให้เราไม่มีการพิจารณาจากเจ้านาย

                  4.ในส่วนของรายได้ ในระหว่างปี อัดตราเิงินเดือน ต่อเดือนนั้น เงินเดือนไม่เคยเพิ่มให้เรา ถึง 100% ต่อเดือน
                     นักธุรกิจเครือข่าย สามารถสร้างเงินเดือนให้กับเราต่อเดือนได้ 100% หรือมากกว่า (ขึ้นอยู่กับตัวเราเอง)

                    แต่ในปัจจุบันนี้มีบริษัทใหม่ๆได้ออกแผนการตลาดออกมาในรูปแบบใหม่โดยไม่ได้เน้นการขายของ แต่เน้นการสร้างผู้บริโภค อยู่หลายยีห้อเหมือนกันซึ่งการเปลียนแปลงดังกล่าวนี้ถือได้ว่าเป็นการปฎิวัติรูปแบบของแผนการตลาดธุรกิจเครือข่ายแบบเดิมๆที่สร้างความเข้าใจผิดแบบเดิมๆ 
ถือว่าเป็น"ตัวเลือกใหม่ ของคนที่มีความประสงค์ที่จะมีรายได้เสริม"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น